วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ไอซ์แลนด์ Lesson one

คงมีอีกหลายๆ คนที่ไม่รู้จักประเทศไอซ์แลนด์(Ice land) หรือ
อีสแลนด์ (Island ในภาษาไวกิ้ง)....เกาะเล็กๆ กลางมหาสมุทร
แอตแลนติค...โดยโหนตัวอยู่กับเส้นรุ้งที่ 66 องศาเหนือ คือคาบ
เกี่ยวอยู่กับขั้วโลกเหนือนั่นเอง....

ด้านซ้ายเป็นเกาะกรีนแลนด์ (Greenland)  ส่วนด้านขวา มีเกาะ
เล็กกว่าอีก เรียกว่า เฟว์โลว์ ไอร์แลนด์ (Faroe Island) ซึ่งเป็น
ของเดนมาร์ก   และแผ่นดินยุโรปที่ถัดออกไปคือ นอร์เวย์....

ส่วนประวัติความเป็นมา รับรองว่าลุงกรูเกิ้ล ช่วยท่านได้แน่นอน.....

สำหรับดิฉัน...ไอซ์แลนด์ดินแดนที่ไม่เคยรู้จักเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
แต่บัดนี้ จากการไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นตลอด 10 ปีที่่ผ่านมา  ประเทศ
นี้เปรียบเหมือนเกาะแก้วพิศดารทีเดียวเชียว ลองมารู้จักภูมิศาสตร์
ของเค้ากันก่อนดีมั้ยเอ่ย....เกาะไอซ์แลนด์ รูปร่างเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยม
เมืองหลวงชื่อ เรคยาวิค (Reykjavík)....อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
ของประเทศ....มีเมืองใหญ่ๆ อีก 2 เมือง คือ อาคูเรย์รี่(Akureyri)
อยู่ทางตอนเหนือ ถ้าเปรียบกับเมืองไทย ก็น่าจะประมาณ เชียงใหม่
และ เอกียส์แตรดีย์ (Egilsstaðir)  อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ
ขอนแก่นบ้านเรา....

ส่วนสภาพทางธรณีวิทยา...เอ..เรียกถูกไม๊เนี่ย...ประเทศไอซ์แลนด์คือ
ส่วนยอดเขาที่โผล่พ้นน้ำของแนวเขาใต้มหาสมุทร ที่ทอดจากขั้วโลกเหนือ
ไปขั้วโลกใต้นั่นเอง และเทือกเขานี้มีแนวกระแสน้ำอุ่น กัลฟ์สตรีม ที่ไหลวนอยู่  
นี่คือสาเหตุว่าทำไมประเทศนี้ถึงอบอุ่นแม้จะอยู่ขั้วโลกเหนือ ไม่หนาวจัดใน
หน้าหนาวเหมือนกรีนแลนด์ หรือทางเหนือของกลุ่มสแกนดิเนียเวีย และอีกอย่าง
คือ  ใต้เกาะไอซ์แลนด์มีสายลาวาชักเป็นใยแมงมุมอยู่ รวมทั้งธารน้ำร้อนอีก
หลายสาย....ตกลงมันจะอันตรายไหมเนี่ย...

แต่อยู่มา 10 ปีก็เพิ่งเจอเหตุการณ์น่าตกใจก็เมื่อเร็วๆ นี้เท่านั้นเอง...อ้อ...สังเกตุ
อีกอย่าง แนวเขาใต้มหาสมุทรเทือกนี้จะมีรอยแยกอยู่ตรงกลาง  นั่นคือที่แอบซ่อน
ของเรือดำน้ำนะจ๊ะ...

ไอซ์แลนด์ดินแดนของเปลือกโลกที่ใหม่ที่สุดของโลก พอจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า
ธรรมชาติของเค้านั้นงดงามเพียงใด...แสงเหนือสีเขียว ที่บางครั้งจะแต่งแต้มด้วย
สีชมพู  ในหน้าหนาว โลดแล่นบนผืนฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล บางครั้งมีลีลาอ่อนช้อย
ให้ผู้คนได้ชม และรับรู้ถึงความมหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อ.....พื้นผิวของโลกที่เราๆ ท่านๆ
เคยเห็นแต่สีดินสีทราย...

ลองมาดูพื้นธรรมชาติที่สร้างสรรจากความร้อนใต้พื้น แต่งให้พื้นผิวเป็นสีแดง สีเหลือง
ตามความร้อนแรงของมัน มีฉากหลังเป็นสีเขียวโดยรอบในหน้าร้อน และสีขาวของปุย
หิมะในหน้าหนาว....อากาศที่เราสามารถสูดเข้าปอดอย่างที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า....
ชื่นใจ....เมืองต่างๆ จะตั้งเรียงรายอยู่โดยรอบเกาะ ไม่มีตึกสูงระฟ้า ให้ระเกะระกะสายตา
ไม่มีต้นไม้ใหญ่ๆ มากพอจะเป็นป่าให้เดินหลง  แต่ก็งามด้วยธรรมชาติแบบเรียบๆ ของ
เค้าเอง  ถนนสายเมนจึงเป็นถนนที่วนรอบเกาะเป็นลักษณะวงกลม ผู้คนอยู่อาศัยแต่ละ
เมืองไม่มากมายนัก...เป็นลักษณะชนบทเล็กๆ และเป็นธรรมชาติมาก  ส่วนใหญ่จะตั้งหน้า
ตั้งตาทำงานกันในหน้าหนาวสำหรับคนเมือง ส่วนตามฟาร์มจะทำงานหนักกันในหน้าร้อน....
เป็นวงจรชีวิตที่เรียบง่ายและดูมีความสุขเหลือเกิน....ไม่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลา ไม่ต้อง
กินข้าว แต่งหน้าทาปากกันในรถ....เฮ้อ....ช่างหน้าอิจฉาเสียจริง....

ก่อนที่จะไปเที่ยวเมืองต่างๆ ในไอซ์แลนด์  เราควรมารู้จักเมืองหลวงของเขาเสียก่อน
Reykjavík (เรคยาวิค) คงอ่านได้ตามที่ได้ยินเท่านั้นนะคะ...เอ...แล้วในเรคยาวิคมีอะไร
น่าสนใจบ้างล่ะ..

สำหรับคนอยู่อาศัยคงไม่มีอะไรน่าสนใจนัก นอกจากการดำรงชีวิตเป็นปกติธรรมดา  
ทำงาน จับจ่ายซื้อของใช้ปรกติ คืนศุกร์ เสาร์ก็ออกเที่ยวบ้างตามประสา...แต่...สำหรับ
นักเดินทาง ก็คงเป็นเมืองๆ หนึ่งที่น่าค้นหาทีเดียวด้วยว่าเป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูง
ประเทศหนึ่ง...แต่ปัจจุบัน ด้วยภาวะทรุดตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนที่สูง
หดหายไปกว่าครึ่ง  นักท่องเที่ยวจึงไปเที่ยวได้อย่างสบายๆ กันมากขึ้น....ที่พักก็มีทั้ง
ระดับโรงแรม 5 ดาว ไปจนถึงห้องพักรวมถูกๆ แล้วแต่จะเสาะหากันไป แต่สำหรับชาวไทย...
ใครสนใจ...สอบถามดิฉันได้ เพื่อนฝูง พวกพ้อง มีอยู่เยอะค่ะ อาจจะได้โฮมสเตย์ ราคาชิวๆ
หรือผิดนัก ก็พักวัดกับหลวงพ่อ (เอ่อ..กรณีผู้ชายหรือคณะที่มีผู้ชายนะคะ)  ท่านมหา
ประสิทธิ์ ใจดีมากค่ะ....

เรคยาวิคเป็นเมืองเล็กๆ ชายฝั่ง มีถนนชอปปิ้ง ศูนย์การค้า เรียกว่าเดินเที่ยวได้สบายๆ
กับสภาพอากาศที่ไม่ทำให้เหนื่อยนัก แต่ถนนก็ขึ้นๆ ลงๆ ให้พอเมื่อยนั่นแหละค่ะ...
หากไม่อยากเดิน รถเมล์โดยสารก็สะดวกสบาย ไม่แน่น สนนราคาก็ไม่แพง ประมาณ
70 บาท ต่อการเดินทางจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง...ภาษาที่นี่ใช้ภาษาไอซ์แลนดิกค่ะ
แต่คนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษเก่งๆ ทั้งนั้น...

ใช้เวลาในเมืองหลวงวันเดียวก็เกินพอ...เพราะเรามีที่เที่ยวอีกมากมายรอให้พบเจอ
เรคยาวิคมีจุดชมเมือง 2 แห่ง คือที่ เพิร์ลแลน (Perlan) ซึ่งสร้างบริเวณถังเก็บน้ำเดิม
ประจำเมือง มีลักษณะเหมือนโลกครึ่งใบตั้งอยู่บนถังขนาดยักษ์สี่ใบ ภายในมีร้านขาย
ของที่ระลึก รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไวกิ้ง   ส่วนอีกแห่งคือหอสูงของโบสถ์
ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) โบสถ์ใหญ่กลางเมืองซึ่งใช้เวลาสร้างกว่าจะเสร็จ
ร่วม 38 ปีทีเดียว นอกจากนั้นหน้าโบสถ์ยังมีรูปปั้นของ เลฟร์ อีริกสัน (Leifr Eiriksson)
ถือเป็นชาวนอสร์คนแรกที่ไปเหยียบอเมริกาและกรีนแลนด์


ทั้งสองแห่งสามารถมองเห็นเมืองเรคยาวิคได้ทั้งเมืองโดยรอบ....สำหรับที่โบสถ์ต้อง
เสียค่าขึ้นไปชมนะคะ สนนราคาก็ไม่แพงมากนัก...

ตำนานบ้านผีสิง....อาคารหลังนี้ตกทอดกันมาจนเป็นของรัฐบาล และว่ากันว่ามีผีสิง.....
มาเชื่อเอาเมื่ออ่านนิตยสารรายเดือนของไทยฉบับหนึ่ง โดยอ้างอิงหนังสือ“EXPLORE
YOUR WORLD” ของรายการทีวีชื่อดังของโลก Discovery channel อาคารหลังนี้มี
ความน่าภาคภูมิใจคือ...เคยเป็นที่พบปะกันของสองผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของโลกคือ รัสเซีย
และอเมริกา...เพื่อลดดีกรีของสงครามเย็น...เป็นจุดเริ่มต้นของความสงบของโลก... 

แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่คนไทยก็มีไม่น้อย ถึงตอนนี้ก็พันกว่าคนทีเดียว คนไทยคนแรก
ที่ไปอยู่ไอซ์แลนด์เมื่อ 20 กว่าปีก่อน เธอยังคงใช้ชีวิตกับครอบครัวชาวไอซ์แลนด์อยู่ที่
เกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ คือเกาะ เวสมาเนียร์ (Vestmannaeyja) เกาะที่เคยมีภูเขาไฟระเบิด
ครั้งใหญ่จนลาวาไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนไปครึ่งเกาะ แต่ก็ไม่มีใครได้รับอันตราย
เพราะระบบการเตือนภัยและหลบภัยที่ดี...

อาชีพหลักของคนไทยที่เดินทางไปไอซ์แลนด์อันดับแรก คือการเข้าทำงานที่โรงงานปลา
ที่มีอยู่ทั่วไป  รองลงมาก็ทำความสะอาด  งานในโรงพยาบาล โดยเฉพาะในครัว งานดูแล
คนสูงอายุ นี่เป็นงานทั่วๆ ไป สำหรับชาวไทยที่เดินทางไปอยู่อาศัยในไอซ์แลนด์....

แต่ระดับครูบาอาจารย์ก็มีนะคะ เป็นถึงโปรเฟสเซอร์ สอนในมหาวิทยาลัย  อีกอาชีพที่น่า
สนใจคือล่าม  ในระยะหลังๆ มานี่ มีเด็กไทยที่ติดตามมารดาไปใช้ชีวิตที่นั่น เข้ารับการ
ศึกษาในระบบและจบการศึกษาในระดับสูงๆ กันเยอะขึ้น......

สำหรับดิฉัน นอกจากการเป็นแม่ครัว ยังรับจ๊อบพิเศษหลังเลิกงานได้ในคืนวันศุกร์ เสาร์
โดยการไปเป็นบาร์เทนเดอร์ตามบาร์ ก็สนุกไปอีกรูปแบบ เพราะได้ใช้ภาษาที่สนุกๆ ของ
ไอซ์แลนด์ด้วย...ส่วนเรื่องเกร็ดเล็กน้อย ไม่ว่าเรื่องภาษา หรือเรื่องการทำงานในโรงงาน
ต่างๆ คงจะมีโอกาสมาเล่าสู่กันฟังในภายหลัง.....รวมทั้งกิจกรรมของคนไทยในประเทศ
ไอซ์แลนด์ด้วยค่ะ....

สิ่งหนึ่งที่ดิฉันชอบในการใช้ชีวิตในประเทศไอซ์แลนด์คือความปลอดภัย...แต่สองสามปี
มานี้...ไอซ์แลนด์จำเป็นต้องรับแรงงานจากกลุ่มอียูด้วยกัน ทำให้มีแรงงานจากรัสเซีย
โปแลนด์และหลายๆ ประเทศซึ่งก็นำมิฉาชีพเข้ามาในประเทศอย่างมากมายทีเดียว
เดี๋ยวนี้จึงต้องระวังกันมากขึ้น....แต่ถ้าเทียบกับบ้านเราแล้วก็ถือได้ว่า ของเค้าระดับ
อนุบาลเท่านั้นจ้า.....


บทความนี้เคยได้รับการตีพิมพ์ใน Add Magazine นิตยสารแจกฟรีของซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์

แผนที่ประเทศไอซ์แลนด์


แผนที่แนวเขาใต้ทะเลอันมีประเทศไอซ์แลนด์อยู่บนแนวเขานี้


สัญญลักษณ์เมืองเรคยาวิค (สร้างใหม่)


บ้านตำแหน่งประธานาธิบดี


เมืองเรยาวิค (บางส่วน) ถ่ายจาก Pearland


ร้านอาหารไทยบนถนนสายชอปปิ้ง (เคยทำงานที่นี่)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น