วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เรื่องเก่าๆ ที่อยากเล่า...ตอน บ้าน

คิดถึงอดีต...!!!

เมื่อชีวิตผกผัน...ชีพจรต้องกลับลงเท้าให้ก้าวออกจากบ้าน
มันเป็นเพราะอะไร???

ชะตาชีวิตของคนเราขีดมาเช่นนี้หรือไร??

เพราะจำได้ว่า สมัยเด็กๆ ที่บ้านยังอยู่กับวิถีเดิมๆ ของคนไทยคือ
การทรงเจ้านั้น...ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่ยังจำได้ไม่เคยลืม...

ทรงเจ้าพ่อฟ้าใหญ่...เทพประจำบ้านที่บรรพบุรุษนับถือต่อเนื่องกันมา
ยาวนานนั้น ท่านทายว่า...เราจะต้องไปอยู่ไกลบ้าน...มันเป็นสิ่งที่ฝัง
อยู่ในความทรงจำแต่เพียงเรื่องเดียวทั้งๆ ที่ยังเล็กมาก!!!

"เจ้าพ่อฟ้าใหญ่" คือ???

นับแต่จำความได้ ศาลเจ้าพ่อฟ้าใหญ่ จะอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ที่
เราเรียกกันว่า "บ้านใหญ่" เพราะใหญ่จริงๆ

บ้าน ไม่ใช่บ้านทรงไทย แต่เป็นเรือนไม้หลังใหญ่โต ใต้ถุนสูง หันหน้า
ไปทางตะวันออก มีบันไดทอดตัวจากตัวเรือนลงไปที่ศาลาหลังใหญ่
ขวามือเป็นคลองเล็กๆ ที่แยกตัวมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาข้างวัดบุคคโล
อดีตชื่อวัดอุบลวนาราม (ไว้จะมาเล่าเรื่องวัดอีกที)  และหน้าศาลานี้คือ
ศาลเจ้าพ่อฟ้าใหญ่ โดนตัวศาลหันหน้าไปทางทิศเหนือ และหันหลังให้
คลอง เล็กๆ

ศาลหลังนี้ไม่ใช่เล็กๆ สร้างด้วยไม้สูงจากพื้นประมาณเมตรเศษๆ เป็น
ทรงสี่เหลี่ยมน่าจะ 1.5x1.5 เมตร  มีสองระดับ โดยด้านหน้าจะโปร่ง
ประมาณ 1 ตรม. และยกสูงขึ้นไปสักคืบมือ ส่วนนี้จะเป็นเหมือนห้อง
เปิดเฉพาะด้านหน้า ภายในมีแผ่นไม้ทรงเสมา ที่เรารู้กันว่าเป็นที่สถิตย์
ของเจ้าพ่อฟ้าใหญ่

ครอบครัวจะมีการบวงสรวงทุกปีในราวเดือนมีนา ถึงเมษา ว่ากันว่าขึ้น
อยู่กับวันข้างขึ้นข้างแรมอะไรสักอย่าง (เห็นทีต้องถามพี่สาว)  จนทุก
วันนี้เราก็ยังคงมีพิธีไหว้กันอยู่เหมือนเดิม

หลังศาลเจ้าพ่อจะเป็นกอโมกข์หนาแน่น ขึ้นผสมกับว่านชนิดหนึ่งที่
เรียกว่า เหงือกปลาหมอ (มารู้ทีหลังว่ามี 2 ชนิด คือตัวผู้กับตัวเมีย) แต่
เราก็เห็นความแตกต่างมาตั้งแต่เด็กค่ะ ว่าชนิดหนึ่งใบจะหยักกว่าและ
หนามเยอะ ส่วนอีกอย่างจะไม่ค่อยหยักและหนามขอบใบน้อยไม่คมนัก
กอเหงือกปลาหมอจะขึ้นผสมกับโมกข์อย่างหนาแน่นเพราะเป็นชายน้ำ

ด้านหน้าของศาลก็จะมีกอว่านกุมารทองและดาหลา มีดอกสีแดง ขวามือ
จะเป็นกอพลับพลึง บวกกับต้นเข็มขาว ดอกไม้สีขาวทั้งหมดจะมีกลิ่นหอมทั้งนั้น....

ศาลาหลังใหญ่หน้าบ้านนั้น น่าจะจุคนได้นับยี่สิบคนสบายๆ คลุมด้วยหลัง
คาสังกะสี รอบๆ แทนที่จะเป็นลูกกรง ก็ทำเป็นที่นั่งยาวแทน  มีบันไดทอด
ตัวลงสองข้าง ข้างหนึ่งลงไปที่ท่าน้ำ มีต้นชมพู่มะเหมี่ยวต้นใหญ่อยู่ข้างศาลา
ด้านนี้เป็นร่มเงามหึมาจริงๆ  ส่วนบันไดอีกฟากทอดตัวลงไปสู่สวนไม้เบญจพรรณ

จากศาลาหน้าบ้าน มีบันไดทอดตัวสูงขึ้นไปหาประตูสองบานที่เมื่อเปิดเข้าไป
จะพบพื้นไม้ขัดมันวาวแผ่นโตๆ  ด้านขวาเป็นผนังไม้ ที่ติดภาพของสมาชิกใน
ครอบครัวละลานตา  ส่วนด้านซ้ายก็เป็นส่วนของผนังของห้อง มีภาพถ่ายแขวน
ไว้เต็มไปหมดเช่นเดียวกัน ตรงนี้จึงเปรียบเสมือนทางเดินที่เข้าไปสู่โถงโล่งข้างหน้า

ถ้าแอบเงยหน้าขึ้นไปมองหลังคา จะพบไม้แบบเดียวกับฝาบ้านตีเป็น
ฝ้าจึงมองไม่เห็นแม้แต่จั่วของบ้านนะจ๊ะ ส่วนความสูงไม่ต้องพูดถึง
เพราะผู้ใหญ่ก็น่าจะต้องต่อตัวกันสามคนนั่นแหละ ไม่แปลกใจเลยที่
ทำไมไม้กวาดหยากไย่ถึงได้ยาวนัก

โถงนั้นกว้างขวางมากเรียกว่านอนตีแปลงกันสักห้าสิบคนยังสบายๆ
ส่วนของผนังด้านซ้ายคือห้องประมุขของบ้าน ทำเป็นสองห้องต่อกัน
แต่ทางเข้าทางเดียว เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบส่วนของห้อง
ที่มีตู้กระจกสมัยก่อนวางพระเต็มไปหมด  ต่อไปอีกห้องถึงจะเป็นห้อง
นอน….ที่เป็นห้องของ คุณแม่ (คุณยาย)

ส่วนผนังด้านขวานั้น จะเจอประตูซึ่งเป็นส่วนของห้องหนึ่งห้อง...เคย
สังเกตุว่าห้องของบ้านนี้จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสทั้งหมด ไม่เป็น
ผืนผ้าสักห้องเลย...และห้องนี้เป็นห้องของน้าชายที่เป็นลูกคนเล็กของ
ตระกูล

เลาะผนังด้านขวามาจะเจออีกประตูค่ะ ประตูนี้เป็นทางออกไปสู่ระเบียง
กว้างที่มีบันไดทอดตัวลงไปสู่ถนนที่ทอดตัวจากถนนใหญ่มาสู่ตัวบ้าน
นั่นเอง…สมัยก่อนต้องเรียกว่าถนนเข้าหลังบ้าน แต่ปัจจุบันส่วนนี้เลย
กลายเป็นหน้าบ้านที่หันออกทางทิศเหนือแทน

ทีนี้ก็จะเลยไปหลังบ้านกันดีกว่า...เข้าครัวเสียหน่อย แต่ก่อนจะเข้าครัว
ก็จะพบห้องอีกห้องหนึ่งอยู่ซ้ายมือ เป็นห้องของคุณน้า (คุณยาย) และ
น้าสาวที่เป็นลูกคนเล็กของคุณน้า นอนด้วยกัน ห้องใหญ่จริงๆ ค่ะ วาง
เตียงคิงไซค์สบายๆ แถมยังมีตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งอีกต่างหาก

จากตัวเรือนจะลงไปโถงครัวมีประตูกั้นด้วยนะคะ...โถงครัวจะเป็นพื้น
ลดระดับลงไปประมาณคืบนึง ขวามือก็มีห้องค่ะ เป็นห้องนอนของน้า
ชาย โถงครัวนี้กว้างพอๆ กับตัวโถงของบ้านเลยทีเดียว เรียกว่ากาง
มุ้งนอนกันได้สักสี่หลังใหญ่ๆ นั่นแหละค่ะ  ครัวนี้มีประตูออกไปที่ชาน
หลังพื้นที่ไม่ใหญ่นัก มีห้องส้วมอยู่ขวามือ...ขอบอกว่าส้วมเล็กมาก
เพราะมีแค่โถส้วมและตุ่มสำหรับใส่น้ำล้างแค่นั้นจริงๆ เด็กๆ จะรู้สึก
กลัวเพราะนอกจากมืด เล็ก เป็นไม้...ยังอยู่นอกตัวบ้านอีกต่างหาก
ฮ่าๆๆๆ

ระเบียงเล็กๆ นี้มีบันไดทอดตัวลงไปสู่คลองหลังบ้านที่กั้นเป็นสัดส่วน
มีห้องอาบน้ำอยู่ตรงนี้นี่เอง...น้ำก็ตักมาจากคลองนั้นแหละค่ะ หมาย
ถึงก่อนที่จะมีน้ำประปานะคะ...

ตรงนี้จะมีเรือนหลังหนึ่งเป็นของน้าชาย ใต้ถุนสูงพอก้มๆ ลอดอยู่ใต้
เรือนได้ และเมื่อจะลงไปใต้ถุนบ้านหลังใหญ่ก็จะมีบันไดทอดตัวลงไป
ประมาณ 5 ขั้นค่ะ

ใต้ถุนบ้านสมัยก่อนเป็นดินเหนียวสีดำมันเงาเดินได้สบายๆ แม้น้ำขึ้น
มาท่วมก็ไม่ได้เละเทะอะไรเพราะเหนียวแน่นมาก ต่อมาก็เทปูนกันไป
ใต้ถุนบ้านจะมีแท้งค์น้ำใหญ่ก่ออิฐถือปูนอย่างดี (น่าจะทำหลังๆ)

ข้างล่างนี้จะมีสองครอบครัวอยู่อีกนะคะ ด้านชายน้ำจะเป็นครอบครัว
ของน้าสาว ส่วนอีกฝั่งที่มองออกไปเห็นศาลาหน้าบ้านจะเป็นครอบ
ครัวของน้าชาย...

นี่คืออาณาจักรของตระกูลก่อนที่จะแตกแขนงออกมา  จนพื้นที่ของ
สวนหายไป กลายเป็นบ้านของลูกๆ เต็มพื้นที่แหละค่ะ


คุณยาย



การลงเทียนและขัดพื้นด้วยมะพร้าวผ่าซีก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น